จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 1 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | บุคคล ชีวประวัติ การศึกษา ธุรกิจ เทคโนโลยี |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ชื่อหนังสือ ชีวิตของเซอร์วิลเลียม ออสเลอร์ The Life of Sir William Osler ผู้เขียน Dr. Harvey Cushing ผู้แปล วิภาดา กิตติโกวิท พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2558 สำนักพิมพ์ มูลนิธิเพื่อสังคม กระดาษปอนด์ หนา หน้า ขนาด 14.5x21 ซม ราคาปก 3000 บาท บรรจุกล่อง ภายในมี 3 เล่มปกแข็ง สภาพหนังสือ ดีมาก 93% คุณหมอ เซอร์วิลเลี่ยม ออสเลอร์ [Sir William Osler, 1849-1919] เป็นแพทย์ชาวแคนาเดียน เป็นหนึ่งในสี่ที่เรียกกันว่า 'Big Four' ผู้ร่วมก่อตั้งโรงพยาบาลจอห์นสฺ ฮ็อปกินสฺที่สหรัฐ และเป็นผู้ริเริ่มโครงการแพทย์ประจำบ้านเพื่อฝึกแพทย์เฉพาะทาง ผู้พานักศึกษาแพทย์ออกจากห้องบรรยายไปฝึกการปฏิบัติทางคลินิกข้างเตียงคนป่วย เขาได้รับการขนานนามว่า "บิดาแห่งการแพทย์แผนใหม่"
เซอร์วิลเลี่ยม ออสเลอร์เป็นแพทย์ เป็นนักการศึกษา รักหนังสือ เป็นนักสะสมหนังสือ เป็นนักประวัติศาสตร์ และนักเขียน
หมอออสเลอร์เกิดในครอบครัวพระ พ่อเป็นพระ และเมื่อเริ่มเรียนนั้นได้เตรียมเพื่อเป็นพระ แต่ได้เปลี่ยนไปเรียนการแพทย์จากการชี้แนะของอาจารย์ที่เขาเคารพ เขาจบจากวิทยาลัยแพทย์โตรอนโต มหาวิทยาลัยแม็คกิลล์ และได้ไปศึกษาต่อที่ลอนดอน เบอร์ลิน เวียนนา จนได้กลับไปทำงานที่คณะแพทย์ของแม็คกิลล์ในปี 1874 ได้เป็นศาสตราจารย์ในปีถัดมา
หมอออสเลอร์ได้รับปริญญาทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัยแม็คกิลล์ในมอนทรีอัล ปี 1872 จากนั้นไปศึกษาที่ลอนดอน เบอร์ลินและเวียนนา ก่อนจะกลับไปทำงานที่คณะแพทย์แม็คกิลล์ และในปี 1883 เขาเป็นหนึ่งในสองชาวแคนาเดียนที่เป็นสมาชิกราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงจนมีการฉลองกัน ปีต่อมา เขารับตำแหน่งศาสตราจารย์ทางการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งเพ็นซิลเวเนียในฟีลาเดลเฟีย
ปี 1884 เดินทางไปเป็นศาสตราจารย์คลินิกแห่งมหาวิทยาลัยเพ็นซิลเวเนีย
จนกระทั่งได้เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งโรงเรียนแพทย์จอห์นสฺ ฮ็อปกินสฺที่บัลติมอร์ หมอออสเลอร์จึงมีโอกาสนำสิ่งใหม่ๆ ที่เขาได้พบเห็นในยุโรปมาใช้
ปี 1888 เข้าร่วมเป็นหนึ่งในแพทย์ผู้เตรียมก่อตั้งโรงพยาบาลจอห์นสฺ ฮ็อปกินสฺ เขาปฏิวัติหลักสูตรการเรียนแพทย์ในสหรัฐและแคนาดา พานักศึกษาแพทย์ไปเรียนข้างเตียงคนไข้แทนการเรียนในห้องเรียน เขาเชื่อว่านักศึกษาจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดโดยการเริ่มที่คนไข้และจบที่คนไข้ หนังสือกับการบรรยายควรเป็นเครื่องมือสนับสนุนจุดมุ่งหมายนี้ หมอออสเลอร์เป็นผู้นำระบบการฝึกหลังจบมาจากเยอรมัน คือจบแล้วต้องฝึกงานหนึ่งปีและเป็นแพทย์ประจำบ้านอีกสามสี่ปีมาใช้ เพื่อเพิ่มความรับผิดชอบด้านคลินิก
นวัตกรรมเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับลึกในการศึกษาแพทย์อเมริกัน ซึ่งจวบจนเวลานั้นยังเป็นการเรียนด้วยการฟังบรรยายเป็นส่วนใหญ่
ปี 1905 เขาย้ายไปอังกฤษเพื่อรับตำแหน่งศาสตราจารย์ทางการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด
หนังสือที่เขาเขียน - "The Principles and Practice of Medicine - หลักการและการปฏิบัติทางอายุรศาสตร์" เป็นงานสำคัญทางการแพทย์มาเกือบครึ่งศตวรรษ
เซอร์วิลเลียม - นามที่ใครๆ เรียกขานด้วยความรัก ส่วนเด็กๆ ที่เขาเล่นด้วยเรียกเขาว่า "วิลลี" - ถึงแก่กรรมในประเทศอังกฤษ ปี 1919 ด้วยโรคไข้หวัดสเปน
ทัศนะที่เป็นหัวใจของหมอออสเลอร์ในการรักษาคือ แพทย์ต้องรักษา "คน" ไม่ใช่รักษา"โรค"
หนังสือ The Life of Sir William Osler เขียนโดย Harvey Cushing ศัลยแพทย์ทางประสาทที่รู้จักหมอออสเลอร์ดี นอกจากได้รวบรวมประวัติของหมอออสเลอร์ออกมาได้อบอุ่น เห็นภาพ ให้แง่คิดดีๆ แก่ผู้จะเรียนแพทย์ได้ดีแล้ว อีกแง่หนึ่งก็เป็นเสมือนประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของการแพทย์ยุคใหม่ด้วย
เซอร์วิลเลียม ออสเลอร์ [William Osler, 1849-1919] ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแพทย์ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ต่อต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์การแพทย์ นอกจากกิจกรรมด้านการวิจัยและการอุทิศตนให้แก่งานด้านวิทยาศาสตร์แล้ว คุณูปการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของออสเลอร์ต่อโลกการแพทย์คือ ระบบแพทย์ประจำบ้าน [residency] ที่เขาสร้างขึ้นที่โรงพยาบาลจอห์นสฺ ฮ็อปกินสฺ ในรัฐบัลติมอร์ ถือเป็นการนำวิธีการใหม่ที่มีความเป็นมนุษย์ที่สุดเข้าสู่อาณาจักรแห่งการแพทย์ในขนบเดิมที่เป็นวิทยาศาสตร์อย่างเคร่งครัด
ฮาร์วีย์ คุชชิง [Harvey Cushing, 1869-1939] ผู้เป็นอดีตลูกศิษย์และเพื่อนสนิทของออสเลอร์ และเป็นผู้บุกเบิกคนหนึ่งในศัลยกรรมทางระบบประสาทนั้น ตัวเขาเองก็เป็นคนสำคัญในวงการแพทย์แผนใหม่ คุชชิงเป็นแพทย์คนแรกที่ใช้เอ๊กซเรย์ช่วยในการวินิจฉัยเนื้องอกในสมอง เขาพัฒนาวิธีการวัดความดันเลือดแบบใหม่ และเป็นผู้ค้นพบโรคคุชชิงซินโดรม ซึ่งเป็นโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง [autoimmune disease] ที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์
งานเขียนชีวประวัติอันเป็นอนุสรณ์ชิ้นนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ประจำปี 1926
อนึ่ง จากหนังสือเล่มนี้ เราสัมผัสได้ว่าหมอออสเลอร์รักพระเจ้า เชื่อพระเจ้า และจึงรักมนุษย์ จากจดหมายของเขาที่สื่อสารกับบุคคลหลากหลายซึ่งรวบรวมไว้ในนี้ นอกจากจะเห็นภาพของแพทย์ที่ทำการรักษาด้วยวิญญาณที่จะรักษาคนแล้ว ก็ได้เห็นภาพบุรุษที่ใจดี อบอุ่น และยิ้มให้เด็กๆ ได้ทุกแห่งที่เขาพบ
"จงใส่ใจตัวคนไข้ให้มากกว่าลักษณะเฉพาะของโรค เอาตัวเองไปเป็นตัวเขา คำพูดที่มีเมตตา การทักทายที่ยินดี สีหน้าที่แสดงความเห็นอกเห็นใจ ... สิ่งเหล่านี้คนไข้จะเข้าใจ"
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |